Back

ศิษย์เก่า

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ข้อบังคับ

หมวด 1 ความทั่วไป

  1. ข้อ 1 สมาคมนี้ชื่อว่า “สมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ใช้อักษรย่อว่า “ส.พ.มอ.” เรียกชื่อภาษาอังกฤษว่า “Prince of Songkla University Medical Alumni Association” ใช้อักษรย่อว่า “PSU.MAA”
  2. ข้อ 2 เครื่องหมายของสมาคม มีตรามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และข้อความว่า “สมาคมศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์”
    อยู่รอบตรามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  3. ข้อ 3 สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ อาคารแพทยศาสตร์ศึกษาราชนครินทร์ ชั้น 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รหัสไปรษณีย์ 90110
  4. ข้อ 4 สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
    1. 4.1 เสริมสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก
    2. 4.2 ผดุงเกียรติของสมาชิก
    3. 4.3 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นทางวิชาการระหว่างสมาชิก
    4. 4.4 ส่งเสริมสวัสดิการของสมาชิก
    5. 4.5 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการและกิจกรรม นักศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    6. 4.6 เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่สังคม

หมวด 2 สมาชิก

  1. ข้อ 5 สมาชิกของสมาคมมี 3 ประเภท คือ
    1. 5.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่
      1. ก. ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
      2. ข. อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
      3. ค. แพทย์ที่ทำงานหรือเคยทำงานในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
    2. 5.2 สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ ผู้สนใจทั่วไปหรือบุคลากรในคณะแพทยศาสตร์ ที่ขอสมัครเป็นสมาชิกและคณะกรรมการบริหารรับรอง
    3. 5.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงเกียรติคุณ หรือผู้ที่ให้ความอุปการะคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการบริหารของสมาคม มีมติให้เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
  2. ข้อ 6 สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญ สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกตลอดชีพได้โดยต้องลงทะเบียนและไม่ต้องเสียค่าบำรุง
  3. ข้อ 7 สมาชิกกิตติมศักดิ์ เป็นสมาชิกตลอดชีพโดยไม่ต้องเสียค่าบำรุง
  4. ข้อ 8 คุณสมบัติของสมาชิกประกอบด้วย
    1. 8.1 เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
    2. 8.2 ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ
    3. 8.3 ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องโทษจำคุก ยกเว้นความผิดฐานประมาท หรือลหุโทษ การต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดในกรณีดังกล่าว จะต้องเป็นในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือในระหว่างที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น
  5. ข้อ 9 สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้
    1. 9.1 ตาย
    2. 9.2 ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้ พิจารณาอนุมัติ
    3. 9.3 ขาดคุณสมบัติสมาชิก
    4. 9.4 คณะกรรมการลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน ในกรณีที่สมาชิกผู้นั้น
      1. 9.4.1 กระทำความผิดถึงต้องรับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาของศาลทั้งนี้ไม่รวมถึงความผิด ลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
      2. 9.4.2 ละเมิดระเบียบหรือข้อบังคับของสมาคมโดยเจตนาที่จะนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม
  6. ข้อ 10 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
    1. 10.1 สมาชิกมีสิทธิที่จะร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสมาคม และใช้เข็มหรือเครื่องหมายประเภทต่างๆ ของสมาคมได้ แต่การออกเสียงเกี่ยวกับการบริหารงาน และการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารของสมาคม ให้เป็นสิทธิของสมาชิกสามัญเท่านั้น
    2. 10.2 สมาชิกมีสิทธิที่จะเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมต่อคณะกรรมการบริหารได้
    3. 10.3 สมาชิกมีสิทธิขอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อตรวจเอกสาร บัญชีทรัพย์สินของสมาคมได้ในเวลาอันควร
    4. 10.4 สมาชิกมีหน้าที่ป้องกันรักษาเกียรติของสมาคมและไม่กระทำการใด ๆ อันจะนำมาซึ่งความเสียหายแก่มวลสมาชิกและสมาคม

หมวด 3 การดำเนินกิจการสมาคม

  1. ข้อ 11 การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมให้อยู่ภายใต้การอำนวยการของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คน และไม่เกิน 15 คน
  2. ข้อ 12 ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหาร จำนวน 5 คน
  3. ข้อ 13 ให้นายกมีสิทธิเลือกสมาชิกอื่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารจนครบจำนวน ตามข้อ 14
  4. ข้อ 14 นายกสมาคม และคณะกรรมการบริหารต้องเป็นสมาชิกสามัญ โดยมีอำนาจในตำแหน่งและหน้าที่ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมโดยสังเขปดังต่อไปนี้
    1. 14.1 นายกสมาคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม
    2. 14.2 อุปนายก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่นายกสามาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายกสมาคม ให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน
    3. 14.3 เลขานุการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมดเป็นหัวหน้า เจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม
    4. 14.4 เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคมและเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
    5. 14.5 ปฏิคม มีหน้าที่ในการให้การต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคม และจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่าง ๆ ของสมาคม
    6. 14.6 นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ประสานงานกับเหรัญญิก
    7. 14.7 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
    8. 14.8 กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง
  5. ข้อ 15 คณะกรรมการบริหารอยู่ในตำแหน่งวาระ 2 ปี ถ้าตำแหน่งใดว่างเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการบริหารเชิญสมาขิกผู้หนึ่งผู้ใดที่เห็นสมควรเข้าเป็นกรรมการบริหารแทนตามจำนวนที่ขาด แต่กรรมการที่เข้ามารับตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทนเท่านั้น
  6. ข้อ 16 นายกสมาคมจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ ไม่เกิน 2 วาระ
  7. ข้อ 17 กรรมการบริหาร แต่ละคนย่อมพ้นจากตำแหน่งก่อนถึงวาระ เมื่อ
    1. 17.1 ตาย หรือ
    2. 17.2 ลาออก หรือ
    3. 17.3 ขาดจากสมาชิกภาพ
    4. 17.4 ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ออกจากตำแหน่ง
  8. ข้อ 18 การประชุมของคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารทั้งหมด
  9. ข้อ 19 นอกจากนายกสมาคม คณะกรรมการบริหารจะต้องมี คณะกรรมการดำรงตำแหน่งอย่างน้อย คือ
    1. 19.1 อุปนายก
    2. 19.2 เลขาธิการ
    3. 19.3 เหรัญญิก

หมวด 4 การประชุมใหญ่

  1. ข้อ 20 ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละ 1 ครั้ง
  2. ข้อ 21 การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจมีขึ้นเพื่อการใด ๆ ซึ่งคณะกรรมการบริหารเห็นสมควรหรือสมาชิกสามัญ ไม่น้อยกว่า 50 คน ร่วมกันยื่นคำร้องต่อนายกสมาคมในคำร้องต้องแสดงเหตุผล และระบุหัวข้อการประชุมด้วย และให้นายกสมาคมเรียกประชุมภายใน 30 วัน
  3. ข้อ 22 ในการเรียกประชุมใหญ่สามัญ หรือวิสามัญ เลขาธิการต้องส่งคำบอกกล่าว นัดประชุมล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เป็นลายลักษณ์อักษรให้สมาชิกทราบถึงกำหนดวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม
  4. ข้อ 23 การประชุมใหญ่ทั้งปวง องค์ประชุมย่อมประกอบด้วยสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า 50 คน
  5. ข้อ 24 ถ้าการประชุมครั้งใดไม่ครบองค์ประชุมให้คณะกรรมการกำหนดนัดประชุมใหญ่ ภายในเวลาที่เห็นสมควรและในการประชุมที่นัดใหม่นั้น มีสมาชิกมาประชุมมากน้อยเท่าใดก็ให้ถือเป็นองค์ประชุมได้
  6. ข้อ 25 ให้นายกเป็นประธานแห่งที่ประชุม ถ้านายกไม่สามารถร่วมประชุมได้ให้อุปนายกเป็นประธานแทน ถ้าอุปนายกไม่สามารถร่วมประชุมได้ ให้ที่ประชุมเลือกสมาชิกสามัญ 1 คน ทำหน้าที่เป็นประธานแห่งที่ประชุม
  7. ข้อ 26 การประชุมใหญ่ทางธุรการ สมาชิกสามัญเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมได้
  8. ข้อ 27 การแก้ไขข้อบังคับของสมาคม จะต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ และต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุมเห็นชอบกับการแก้ไข

หมวด 5 การเงินและทรัพยสิน

  1. ข้อ 28 ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคม 1 คน พร้อมกับการเลือกคณะกรรมการบริหาร จำนวน 10 คน
  2. ข้อ 29 ให้คณะกรรมการบริหาร รับผิดชอบในทรัพย์สินและการเงินของสมาคม จัดให้มีบัญชีทรัพย์สิน และการเงินของสมาคมตามหลักการบัญชี ให้เป็นการถูกต้องและทันตามเวลาอยู่เสมอ
  3. ข้อ 30 ให้เหรัญญิกมีอำนาจถือเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 5,000.- บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ส่วนเงินของสมาคมนอกจากจำนวนที่เหรัญญิกถือไว้ ต้องฝากธนาคารหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่คณะกรรมการเห็นสมควรในนามของสมาคม นายกหรืออุปนายกคนใดคนหนึ่ง ร่วมกับเหรัญญิกเป็นผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในเช็คสั่งจ่ายไว้ในวงเงินไม่เกิน 250,000.- บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านี้จะต้องได้รับอนุมัติ จากคณะกรรมการบริหาร
  4. ข้อ 31 เงินของสมาคมนั้นจะนำไปลงทุนแสวงหาผลประโยชน์ได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร
  5. ข้อ 32 เหรัญญิกต้องทำบัญชีงบดุลประจำปี เสนอให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณา
  6. ข้อ 33 ถ้าในระหว่างปี ตำแหน่งผู้สอบบัญชีว่างลงด้วยเหตุใดก็ตาม ให้นายกสมาคมเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกผู้สอบบัญชีใหม่ แต่ถ้าจะต้องมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในระยะเวลาใกล้ชิดกันหรือเมื่อผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและรับรองบัญชีงบดุลประจำปีเรียบร้อยแล้ว นายกสมาคมจะไม่เรียกประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้

หมวด 6 การเลิกสมาคม

  1. ข้อ 34
    เว้นแต่โดยผลแห่งกฎหมาย สมาคมจะเลิกได้โดยสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมดลงมติให้เลิกสมาคม
  2. ข้อ 35
    ในกรณีเลิกสมาคมให้ทรัพย์สินทั้งสิ้น ซึ่งเหลือเมื่อชำระหนี้สินเรียบร้อยแล้วตกเป็นของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อประโยชน์ของคณะแพทยศาสตร์

หมวด 7 บทเฉพาะกาล

  1. ข้อ 36 ข้อบังคับฉบับนี้นั้น ให้เริ่มใช้บัคงคับได้นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเป็นต้นไป
  2. ข้อ 37 เมื่อสมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากทางราชการ ก็ให้ถือว่าผู้เริ่มการทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ

Alumni Rules

Alumni Rules

ข้อบังคับ

ข้อ 1 สมาคมนี้ชื่อว่า “สมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” ใช้อักษรย่อว่า “ส.พ.มอ.” เรียกชื่อภาษาอังกฤษว่า “Prince of Songkla University Medical Alumni Association” ใช้อักษรย่อว่า “PSU.MAA”

ข้อ 2 เครื่องหมายของสมาคม มีตรามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และข้อความว่า “สมาคมศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” อยู่รอบตรามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ข้อ 3 สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ อาคารแพทยศาสตรศึกษาราชนครินทร์ ชั้น 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รหัสไปรษณีย์ 90110

ข้อ 4 สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

4.1 เสริมสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก

4.2 ผดุงเกียรติของสมาชิก

4.3 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นทางวิชาการระหว่างสมาชิก

4.4 ส่งเสริมสวัสดิการของสมาชิก

4.5 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการและกิจกรรมนักศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

4.6 เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แก่สังคม

ข้อ 5 สมาชิกของสมาคมมี 3 ประเภท คือ

5.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่

ก. ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ข. อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ค. แพทย์ที่ทำงานหรือเคยทำงานในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี

5.2 สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ ผู้สนใจทั่วไปหรือบุคลากรในคณะแพทยศาสตร์ ที่ขอสมัครเป็นสมาชิกและคณะกรรมการบริหารรับรอง

5.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงเกียรติคุณ หรือผู้ที่ให้ความอุปการะคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการบริหารของสมาคม มีมติให้เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์

ข้อ 6 สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญ สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกตอลดชีพได้โดยต้องลงทะเบียนและไม่ต้องเสียค่าบำรุง

ข้อ 7 สมาชิกกิตติมศักดิ์ เป็นสมาชิกตลอดชีพโดยไม่ต้องเสียค่าบำรุง

ข้อ 8 คุณสมบัติของสมาชิกประกอบด้วย

8.1 เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
8.2 ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ
8.3 ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องโทษจำคุก ยกเว้นความผิดฐานประมาท หรือลหุโทษ การต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดในกรณีดังกล่าว จะต้องเป็นในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือในระหว่างที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น

ข้อ 9 สามชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้

9.1 ตาย
9.2 ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้ พิจารณาอนุมัติ
9.3 ขาดคุณสมบัติสมาชิก
9.4 คณะกรรมการลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน ในกรณีที่สมาชิกผู้นั้น
9.4.1 กระทำความผิดถึงต้องรับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาของศาลทั้งนี้ไม่รวมถึงความผิด ลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
9.4.2 ละเมิดระเบียบหรือข้อบังคับของสมาคมโดยเจตนาที่จะนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม

ข้อ 10 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก

10.1 สมาชิกมีสิทธิที่จะร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสมาคม และใช้เข็มหรือเครื่องหมายประเภทต่างๆ ของสมาคมได้ แต่การออกเสียงเกี่ยวกับการบริหารงาน และการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารของสมาคม ให้เป็นสิทธิของสมาชิกสามัญเท่านั้น
10.2 สมาชิกมีสิทธิที่จะเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมต่อคณะกรรมการบริหารได้
10.3 สมาชิกมีสิทธิขอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อตรวจเอกสาร บัญชีทรัพย์สินของสมาคมได้ในเวลาอันควร
10.4 สมาชิกมีหน้าที่ป้องกันรักษาเกียรติของสมาคมและไม่กระทำการใด ๆ อันจะนำมาซึ่งความเสียหายแก่มวลสมาชิกและสมาคม

ข้อ 11 การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมให้อยู่ภายใต้การอำนวยการของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คน และไม่เกิน 15 คน

ข้อ 12 ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหาร จำนวน 5 คน

ข้อ 13 ให้นายกมีสิทธิเลือกสมาชิกอื่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารจนครบจำนวน ตามข้อ 14

ข้อ 14 นายกสมาคม และคณะกรรมการบริหารต้องเป็นสมาชิกสามัญ โดยมีอำนาจในตำแหน่งและหน้าที่ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมโดยสังเขปดังต่อไปนี้

14.1 นายกสมาคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม

14.2 อุปนายก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่นายกสามาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายกสมาคม ให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน

14.3 เลขานุการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมดเป็นหัวหน้า เจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม

14.4 เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคมและเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ

14.5 ปฏิคม มีหน้าที่ในการให้การต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคม และจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่าง ๆ ของสมาคม

14.6 นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ประสานงานกับเหรัญญิก

14.7 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

14.8 กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง

ข้อ 15 คณะกรรมการบริหารอยู่ในตำแหน่งวาระ 2 ปี ถ้าตำแหน่งใดว่างเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการบริหารเชิญสมาขิกผู้หนึ่งผู้ใดที่เห็นสมควรเข้าเป็นกรรมการบริหารแทนตามจำนวนที่ขาด แต่กรรมการที่เข้ามารับตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทนเท่านั้น

ข้อ 16 นายกสมาคมจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ ไม่เกิน 2 วาระ

ข้อ 17 กรรมการบริหาร แต่ละคนย่อมพ้นจากตำแหน่งก่อนถึงวาระ เมื่อ

17.1 ตาย หรือ
17.2 ลาออก หรือ
17.3 ขาดจากสมาชิกภาพ
17.4 ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ออกจากตำแหน่ง

ข้อ 18 การประชุมของคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารทั้งหมด

ข้อ 19 นอกจากนายกสมาคม คณะกรรมการบริหารจะต้องมี คณะกรรมการดำรงตำแหน่งอย่างน้อย คือ

19.1 อุปนายก
19.2 เลขาธิการ
19.3 เหรัญญิก

ข้อ 20 ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละ 1 ครั้ง

ข้อ 21 การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจมีขึ้นเพื่อการใด ๆ ซึ่งคณะกรรมการบริหารเห็นสมควรหรือสมาชิกสามัญ ไม่น้อยกว่า 50 คน ร่วมกันยื่นคำร้องต่อนายกสมาคมในคำร้องต้องแสดงเหตุผล และระบุหัวข้อการประชุมด้วย และให้นายกสมาคมเรียกประชุมภายใน 30 วัน

ข้อ 22 ในการเรียกประชุมใหญ่สามัญ หรือวิสามัญ เลขาธิการต้องส่งคำบอกกล่าว นัดประชุมล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เป็นลายลักษณ์อักษรให้สมาชิกทราบถึงกำหนดวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม

ข้อ 23 การประชุมใหญ่ทั้งปวง องค์ประชุมย่อมประกอบด้วยสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่า 50 คน

ข้อ 24 ถ้าการประชุมครั้งใดไม่ครบองค์ประชุมให้คณะกรรมการกำหนดนัดประชุมใหญ่ ภายในเวลาที่เห็นสมควรและในการประชุมที่นัดใหม่นั้น มีสมาชิกมาประชุมมากน้อยเท่าใดก็ให้ถือเป็นองค์ประชุมได้

ข้อ 25 ให้นายกเป็นประธานแห่งที่ประชุม ถ้านายกไม่สามารถร่วมประชุมได้ให้อุปนายกเป็นประธานแทน ถ้าอุปนายกไม่สามารถร่วมประชุมได้ ให้ที่ประชุมเลือกสมาชิกสามัญ 1 คน ทำหน้าที่เป็นประธานแห่งที่ประชุม

ข้อ 26 การประชุมใหญ่ทางธุรการ สมาชิกสามัญเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมได้

ข้อ 27 การแก้ไขข้อบังคับของสมาคม จะต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ และต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุมเห็นชอบกับการแก้ไข

ข้อ 28 ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคม 1 คน พร้อมกับการเลือกคณะกรรมการบริหาร จำนวน 10 คน

ข้อ 29 ให้คณะกรรมการบริหาร รับผิดชอบในทรัพย์สินและการเงินของสมาคม จัดให้มีบัญชีทรัพย์สิน และการเงินของสมาคมตามหลักการบัญชี ให้เป็นการถูกต้องและทันตามเวลาอยู่เสมอ

ข้อ 30 ให้เหรัญญิกมีอำนาจถือเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 5,000.- บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ส่วนเงินของสมาคมนอกจากจำนวนที่เหรัญญิกถือไว้ ต้องฝากธนาคารหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่คณะกรรมการเห็นสมควรในนามของสมาคม นายกหรืออุปนายกคนใดคนหนึ่ง ร่วมกับเหรัญญิกเป็นผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในเช็คสั่งจ่ายไว้ในวงเงินไม่เกิน 250,000.- บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านี้จะต้องได้รับอนุมัติ จากคณะกรรมการบริหาร

ข้อ 31 เงินของสมาคมนั้นจะนำไปลงทุนแสวงหาผลประโยชน์ได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร

ข้อ 32 เหรัญญิกต้องทำบัญชีงบดุลประจำปี เสนอให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณา

ข้อ 33 ถ้าในระหว่างปี ตำแหน่งผู้สอบบัญชีว่างลงด้วยเหตุใดก็ตาม ให้นายกสมาคมเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกผู้สอบบัญชีใหม่ แต่ถ้าจะต้องมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในระยะเวลาใกล้ชิดกันหรือเมื่อผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและรับรองบัญชีงบดุลประจำปีเรียบร้อยแล้ว นายกสมาคมจะไม่เรียกประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้

ข้อ 34 เว้นแต่โดยผลแห่งกฎหมาย สมาคมจะเลิกได้โดยสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกสามัญทั้งหมดลงมติให้เลิกสมาคม

ข้อ 35 ในกรณีเลิกสมาคมให้ทรัพย์สินทั้งสิ้น ซึ่งเหลือเมื่อชำระหนี้สินเรียบร้อยแล้วตกเป็นของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อประโยชน์ของคณะแพทยศาสตร์

ข้อ 36 ข้อบังคับฉบับนี้นั้น ให้เริ่มใช้บัคงคับได้นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเป็นต้นไป

ข้อ 37 เมื่อสมาคมได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจากทางราชการ ก็ให้ถือว่าผู้เริ่มการทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ

กรรมการบริหาร

รายชื่อกรรมการบริหารสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ ชุดที่ 11

(วาระบริหารงาน 1 มกราคม 2565 – 30 กันยายน 2566)

คณะที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์

1. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ (รองศาสตราจารย์นายแพทย์เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์) รุ่น 6
2. ศาสตราจารย์นายแพทย์วีระพล จันทร์ดียิ่ง รุ่น 1
3. ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์พิเชฐ อุดมรัตน์ รุ่น 2
4. นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ รุ่น 3
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์กอปรชุษณ์ ตยัคคานนท์ รุ่น 3
6. รองศาสตราจารย์นายแพทย์สมชาย ทั้งไพศาล รุ่น 4
7. ศาสตราจารย์นายแพทย์กรีฑา ธรรมคำภีร์ รุ่น 5
8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์เกียรติศักดิ์ ราชบริรักษ์ รุ่น 7
9. นายแพทย์ยอร์น จิระนคร รุ่น 8
10. นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รุ่น 10
11. นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม รุ่น 10
12. นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รุ่น 11
13. รองศาสตราจารย์นายแพทย์คมกริช ฐานิสโร รุ่น 12

คณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์

1. นายแพทย์นพวิทย์ คณาวงศ์พัฒน์ รุ่น 8 นายกสมาคม
2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สิทธิโชค อนันตเสรี รุ่น 7 กรรมการ
3. นายแพทย์ศักดิ์วุฒิ รัตตานุกูล รุ่น 8 อุปนายกภายนอก
4. นายแพทย์บุญประสิทธ์ กฤตย์ประชา รุ่น 10 กรรมการ
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ธนะรัตน์ บุญเรือง รุ่น 14 อุปนายกภายใน
6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ธนพันธ์ ชูบุญ รุ่น 18 กรรมการ
7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงสุภาพร โรยมณี รุ่น 22 กรรมการ
8. นายแพทย์ทัศนัย อชิรเสนา รุ่น 29 กรรมการ
9. นายแพทย์ศุภโชค ก่อวิวัฒน์สกุล รุ่น 33 กรรมการ
10. แพทย์หญิงณัฐยา พรมวัง รุ่น 35 กรรมการ
11. นายแพทย์วงศกร เชาว์ชาญกิจ รุ่น 36 กรรมการ
12. นายแพทย์สุพงศ์ วรธรรมานนท์ รุ่น 37 กรรมการ
13. ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา (นายแพทย์กรกช มะลิวรรณกุล) รุ่น 27 กรรมการ
14. นายกสโมสรนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ (นศพ.ภัทรดนัย คงสกูล) กรรมการ

Alumni Committee

Alumni Committee

กรรมการบริหาร

รายชื่อกรรมการบริหารสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ ชุดที่ 11

(วาระบริหารงาน 1 มกราคม 2565 – 30 กันยายน 2566)

คณะที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์

1. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ (รองศาสตราจารย์นายแพทย์เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์) รุ่น 6
2. ศาสตราจารย์นายแพทย์วีระพล จันทร์ดียิ่ง รุ่น 1
3. ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์พิเชฐ อุดมรัตน์ รุ่น 2
4. นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ รุ่น 3
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์กอปรชุษณ์ ตยัคคานนท์ รุ่น 3
6. รองศาสตราจารย์นายแพทย์สมชาย ทั้งไพศาล รุ่น 4
7. ศาสตราจารย์นายแพทย์กรีฑา ธรรมคำภีร์ รุ่น 5
8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์เกียรติศักดิ์ ราชบริรักษ์ รุ่น 7
9. นายแพทย์ยอร์น จิระนคร รุ่น 8
10. นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รุ่น 10
11. นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม รุ่น 10
12. นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รุ่น 11
13. รองศาสตราจารย์นายแพทย์คมกริช ฐานิสโร รุ่น 12

คณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์

1. นายแพทย์นพวิทย์ คณาวงศ์พัฒน์ รุ่น 8 นายกสมาคม
2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สิทธิโชค อนันตเสรี รุ่น 7 กรรมการ
3. นายแพทย์ศักดิ์วุฒิ รัตตานุกูล รุ่น 8 อุปนายกภายนอก
4. นายแพทย์บุญประสิทธ์ กฤตย์ประชา รุ่น 10 กรรมการ
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ธนะรัตน์ บุญเรือง รุ่น 14 อุปนายกภายใน
6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ธนพันธ์ ชูบุญ รุ่น 18 กรรมการ
7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงสุภาพร โรยมณี รุ่น 22 กรรมการ
8. นายแพทย์ทัศนัย อชิรเสนา รุ่น 29 กรรมการ
9. นายแพทย์ศุภโชค ก่อวิวัฒน์สกุล รุ่น 33 กรรมการ
10. แพทย์หญิงณัฐยา พรมวัง รุ่น 35 กรรมการ
11. นายแพทย์วงศกร เชาว์ชาญกิจ รุ่น 36 กรรมการ
12. นายแพทย์สุพงศ์ วรธรรมานนท์ รุ่น 37 กรรมการ
13. ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา (นายแพทย์กรกช มะลิวรรณกุล) รุ่น 27 กรรมการ
14. นายกสโมสรนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ (นศพ.ภัทรดนัย คงสกูล) กรรมการ

สิทธิประโยชน์

  1. ศิษย์เก่าทุกท่านที่จบการศึกษาแพทยศาสตร์ ม.อ. จะเป็นสมาชิกของสมาคมศิษย์เก่าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  2. กระเช้าเยี่ยมไข้  เฉพาะตัวศิษย์เก่า  กรณีนอนรักษาตัวที่ รพ.ม.อ.
  3. เงินทำบุญหรือพวงหรีด  งานศพ  ศิษย์เก่าและญาติสายตรง
  4. บริการฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์สำหรับศิษย์เก่า ได้แก่ ฐานข้อมูลสวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-journal) ฐานข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) และฐานข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ (evidence-based medicine)
  5. รพ.ม.อ. ได้เพิ่มสถานะ “ศิษย์เก่าแพทย์ มอ.” ในระบบเวชระเบียน เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับบริการจากทาง รพ.
  • สิทธิจองห้องพิเศษสำรองเฉพาะตัวใน รพ.ม.อ.
  • สวัสดิการลดหย่อนส่วนเกินสิทธิค่าห้องพิเศษ  สำหรับศิษย์เก่าและญาติสายตรง ตามเอกสารเเนบ   (กรณีญาติสายตรงศิษย์เก่า  ต้องเเนบสำเนาทะเบียนบ้าน  เพื่อยืนยันสถานะญาติสายตรง )

ฐานข้อมูลศิษย์เก่า

Alumni Contact

ติดต่องานกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่า

Phone

074-451531

Email

alumni@medicine.psu.ac.th

Address

15 อาคารแพทยศาสตรศึกษาราชนครินทร์ ชั้น 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110

ติดต่อ

เปิดทำการ

วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.

ที่ตั้ง

อาคารแพทยศาสตรศึกษาราชนครินทร์ ชั้นที่ 2